เรื่อง: สารสกัดมะเขือเทศPuritan Lycopene 40mg ผิวขาวใส นุ่ม อมชมพู ปกป้องผิวจากแสงแดด
 
 476

My Name: grapeseedhealth ออฟไลน์
  • ดูรายละเอียด
06 ก.ย. 18, 16:15:13น.

Puritan’s Pride Lycopene 40 mg / 60 Softgels


(ขายดี) ไลโคปีน สารสกัดจากมะเขือเทศเข้มข้น ผิวขาวใส นุ่ม อมชมพู ปกป้องผิวจากแสงแดด จาก usa ขนาด 60 เม็ด ทานได้ 2 เดือน



ไลโคปีน (Lycopene) ให้มากกว่าผิวขาวใส อมชมพู จาก ผลวิจัย lycopeneเป็นเม็ดสีที่ช่วยให้ผักและผลไม้ เช่นมะเขือเทศ แตงโม ส้มโอมีสีชมพูและแดง และนี่เป็นสาเหตุที่ไลโคปีน (Lycopene)เป็นนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเทรนของกระแสผิวขาวใส อมชมพู

และที่สำคัญ ไลโคปีนยังมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งซึ่ง เป็นสิ่งที่เราได้รับนอกเหนือจากการป้องกันและสามารถลดอัตราการเสี่ยง ของการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก ไลโคปีนอาจจะมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก โดยจะลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนา วงจรชีวิตของเซลล์ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะ G1) ไลโคปีนอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

 

 

LYCOPENE ไลโคปีน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
ผู้ ที่ใส่ใจสุขภาพและความสวยความงามในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสนใจกับไลโคปีน มากขึ้นเพราะคุณสมบัติทำให้ผิวพรรณผ่องใสขาวอมชมพู แต่ไลโคปีนยังมีคุณประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึงอีกมากมาย

ไลโคปีน (Lycopene) มี รากศัพท์มาจากภาษาละตินคำว่า lycopersicum ซึ่งเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ บ่งบอกสปีชีส์ของมะเขือเทศ (Solanum lycopersicum) ไลโคปีนจัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ชนิดหนึ่งใน 600 ชนิด ละลายได้ดีในไขมันเช่นเดียวกับเบต้าแคโรทีน มีรงควัตถุ (pigment) สีแดง พบได้ทั่วไปในมะเขือเทศสุก ฝรั่ง (pink guava) แตงโม ส้ม มะละกอ แครอท ส้มโอสีชมพู ฟักข้าว (หรือ Gac furit มีสารไลโคปีน มากกว่ามะเขือเทศถึง 70 เท่า) และในผักผลไม้สีแดงต่างๆ (ยกเว้นสตรอเบอร์รี่และเชอร์รี่) แต่ไม่พบในสัตว์

ไล โคปีนที่พบมี โครงสร้างทางเคมี 2 แบบคือ trans – configuration และแบบ cis-isomer โดยในธรรมชาติจะพบไลโคปีนแบบ trans – configuration แต่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบ cis-isomer ได้เมื่อสัมผัสกับความร้อนหรือและสว่าง โดยในกระแสเลือดของคนเราพบไลโคปีนแบบ cis-isomer อยู่ถึง 60% เลยทีเดียว

ร่าง กายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene) เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ เนื่องจากไลโคปีนที่มีโครงสร้างแบบ cis -isomer ถูกดูดซึมได้ดีกว่าแบบ trans – configuration และแบบ cis -isomer จะสามารถละลายและรวมตัวกับกรดน้ำดี (bile acid micells) ได้ดีกว่า แบบ trans – configuration ด้วย นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน

มี ผลการวิจัยทางการแพทย์ที่ ระบุว่าเมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณของไลโคปีนในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้โอกาสในการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากไลโคปีนเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ที่มีความแรงมาก และมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง กลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญคือเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระ (Free radical) ในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการทำลายสายดีเอ็นเอ อันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ไลโคปีนจะช่วยลดการก่อกลายพันธุ์ ทำให้สามารถยับยั้งวงจรชีวิตของเซลล์มะเร็งในช่วงต้น (ระยะ G1) และลดการเกิดเนื้องอกได้ เมื่อเทียบกับสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดอื่นๆ ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมีโครงสร้างที่ต่อกันเป็นสายยาวกว่า ดังรายงานการศึกษาเปรียบเทียบผลในการต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง พบว่าไลโคปีนมีฤทธิ์ที่ดีกว่าเบต้าแคโรทีนและแอลฟาโทโคฟีรอลถึง 2 และ 10 เท่าตามลำดับ มีความเชื่อว่าไลโคปีนสามารถปรับระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน ตลอดจนเมตาบอลิซึมในร่างกายได้ นอกจากนี้การรับประทานไลโคปีนในปริมาณสูงยังช่วยยับยั้งเอนไซม์สำคัญที่ใช้ สังเคราะห์โคเลสเตอรอล และเร่งสลายโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือ LDL (Low density lipoprotein) ที่มีส่วนทำให้เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้อีกด้วย

ร่าง กายของคนเราควรได้รับปริมาณไลโคปีน อย่างน้อย 6.5 มก.ต่อวัน ซึ่งเทียบได้กับการทานมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบในอาหาร 10 ครั้งต่อสัปดาห์ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าการได้รับไลโคปีนมากเกินไปจะมีผลเสียต่อร่าง กายอย่างไร


 
**สนใจสินค้าราคาส่ง ซื้อจำนวนมาก**

ราคาส่งสอบถามได้ค่ะ

ติดต่อด่วนได้ที่ได้ที่

LINE ID:  grapeseedhealth

( ตอบเร็ว  ส่งเร็ว ของแท้ ราคาถูก มั่นใจได้รับของ100 % ค้ะ )

 ---> สั่งซื้อสินค้าด่วน
สั่งซื้อ
line: grapeseedhealth
คลิ้กลิ้งค์นี้เพื่อสั่งซื้อสินค้า : http://www.grapeseedhealth.com
คลิ้กลิ้งค์นี้เพื่อส่งข้อความสั่งซื้อสินค้า :
https://www.facebook.com/Grapeseedhealthforyou
(( IN BOX เพจร้านได้เลยค่ะ))
Email: grapeseedhealth@gmail.com
Line ID : grapeseedhealth
https://instagram.com/grapeseedhealth
ตาม follow กันได้ที่ https://twitter.com/grapeseedhealth
(ทางร้านไม่รับแจ้งทางโทรศัพท์เพราะอาจเกิดความผิดพลาดได้)
ขอขอบพระคุณ ลูกค้าทุกท่าน ที่มาอุดหนุนค่า^^

 
 

My Name: grapeseedhealth ออฟไลน์
  • ดูรายละเอียด
ตอบกลับ #1 07 ก.ย. 18, 17:18:47น.
---> สั่งซื้อสินค้าด่วน
สั่งซื้อ
line: grapeseedhealth
คลิ้กลิ้งค์นี้เพื่อสั่งซื้อสินค้า : http://www.grapeseedhealth.com
คลิ้กลิ้งค์นี้เพื่อส่งข้อความสั่งซื้อสินค้า :
https://www.facebook.com/Grapeseedhealthforyou
(( IN BOX เพจร้านได้เลยค่ะ))
Email: grapeseedhealth@gmail.com
Line ID : grapeseedhealth
https://instagram.com/grapeseedhealth
ตาม follow กันได้ที่ https://twitter.com/grapeseedhealth
(ทางร้านไม่รับแจ้งทางโทรศัพท์เพราะอาจเกิดความผิดพลาดได้)
ขอขอบพระคุณ ลูกค้าทุกท่าน ที่มาอุดหนุนค่า^^

My Name: grapeseedhealth ออฟไลน์
  • ดูรายละเอียด
ตอบกลับ #2 08 ก.ย. 18, 14:07:23น.
---> สั่งซื้อสินค้าด่วน
สั่งซื้อ
line: grapeseedhealth
คลิ้กลิ้งค์นี้เพื่อสั่งซื้อสินค้า : http://www.grapeseedhealth.com
คลิ้กลิ้งค์นี้เพื่อส่งข้อความสั่งซื้อสินค้า :
https://www.facebook.com/Grapeseedhealthforyou
(( IN BOX เพจร้านได้เลยค่ะ))
Email: grapeseedhealth@gmail.com
Line ID : grapeseedhealth
https://instagram.com/grapeseedhealth
ตาม follow กันได้ที่ https://twitter.com/grapeseedhealth
(ทางร้านไม่รับแจ้งทางโทรศัพท์เพราะอาจเกิดความผิดพลาดได้)
ขอขอบพระคุณ ลูกค้าทุกท่าน ที่มาอุดหนุนค่า^^